เบอร์ 20 ของเพอร์ซี่ และแชมป์ที่ 20 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2011/2012 จบลงไปด้วยความเจ็บปวดของแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาได้แค่รองแชมป์ โดยแพ้เพียงแค่ลูกได้เสียให้กับ อริร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอนในช่วงซัมเมอร์ พลพรรคปีศาจแดง ย่อมต้องเตรียมการแก้มือเป็นอย่างดี เพื่อกลับมาเป็นยอดทีมเบอร์1 ของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ก่อนฤดูกาล 2012/2013 จะเริ่มขึ้น
พวกเขาตกเป็นข่าวลืออย่างหนักกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กัปตันทีมของอาเซน่อล และแน่นอนสุดท้ายแล้วพวกเขาจัดการดึงตัว กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ เข้ามาเล่นในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด ได้เป็นผลสำเร็จ โดยพวกเขาจ่ายค่าเสียหายให้กับ อาเซน่อล เป็นเงิน 24 ล้านปอนด์
การเปิดตัวที่โอลแทรฟฟอร์ด โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เลือกใส่เสื้อเบอร์ 20 ซึ่งเขาตั้งใจจะสื่อว่า แชมป์ครั้งนี้จะเป็นแชมป์ครั้งที่ 20 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งบรรดากองเชียร์ปีศาจแดง และนักเตะทุกคนของทีม ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
ฤดูกาล 2012/2013 เริ่มต้นขึ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทแบบน่าใจหาย พวกเขาบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 เล่นเอาโปรเจคต์แชมป์สมัยที่ 20 กร่อยไปพอสมควร หากแต่จากนั้น 14 นัด พวกเขาโกยแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอย่างสง่าผ่าเผย โดยที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นผู้นำดาวซัลโวของทีม ยิง 10 ประตู และจ่ายอีก 5 แอสซิสต์
แชมป์ที่ 20 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากนั้นช่วงกลางฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมผ่อนคันเร่ง พวกเขาไม่เคยหลุดจากตำแหน่งจ่าฝูงเลย แม้แต่วินาทีเดียว และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ชายผู้เลือกเสื้อหมายเลข 20 กำลังจะพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 20 มาครองได้อย่างไร้คู่แข่ง
เข้าสู่นัดที่ 33 ของฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำคะแนนทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไกลถึง 16 คะแนน ซึ่งตอนนั้นเหลือการแข่งขันอีก 5 นัด ซึ่งนั่นเป็นการการันตีว่า ต่อให้พวกเขาแพ้ 5 นัดที่เหลือ พวกเขาก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012/2013 มาครองได้อย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าแชมป์ฤดูกาลนั้นมาครอง และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นดาวซัลโวของทีม ยิงไป 36 ประตู รวมทุกรายการ แบ่งเป็นการยิงในพรีเมียร์ลีก 26 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโวมาครองด้วยและนั่นเป็นแชมป์สมัยที่ 20 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนั่นเป็นการคุมทีม ฤดูกาลสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และหลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีสภาพอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
#ข่าวกีฬา#ข่าวฟุตบอล#แมนเชสเตอร์#richmond2day
