สนาม “โมลินิวซ์” เป็นเหมือนการอยู่บ้านหลังใหม่

ฟูลแบ็กของวูลฟ์ออกมาแสดงความคิดเห็น หลังจากที่เขาย้ายจากเซลต้า บีโก้, แอตเลติโก มาดริดและเคยทำงานกับหลุยส์ เอ็นริเก้ด้วย

จากกาลิเซียสู่วูลฟ์แฮมป์ตัน จอนนี่ อ็อตโต้แชทกับสกาย สปอร์ตส์ว่าการเดินทางเข้าสู่พรีเมียร์ลีกที่สนาม“โมลินิวซ์“ เป็นเหมือนการอยู่บ้านหลังใหม่เลย

เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เมื่อทีมหมาป่า มีการเปลี่ยนแปลงทีม นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้เข้ารับงานคุมทีมวูลฟ์ เป็นปีแรก และปีนั้นสโมสรเพิ่งขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีก หลังการห่างหายจากลีกสูงสุดกว่า 6 ปี นอกจากนี้ พรีเมียร์ลีกยังมีการดึงตัวผู้เล่นอีกมากมาย

ทีมก็ต้องการนักเตะความสามารถสูงเข้าสู่ทีม โดยอ็อตโต้ได้ย้ายเข้าสู่ทีมในปีนั้น ผมได้รู้จักกับแฟนบอลอังกฤษ และโค้ชชาวโปรตุเกส นูโน่ ซานโต้ โดยก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะย้ายจากเซลต้า บีโก้มาสู่แอตเลติโก มาดริดก่อนที่จะย้ายทีมแบบยืมตัวมาเล่นที่สนาม “โมลินิวซ์“

มันเป็นการตัดสินใจที่ช่วยให้ผมย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และผมก็ไม่คิดเสียใจเลย มันเป็นการตัดสินใจที่ยากเหลือเกินที่ย้ายออกจากบ้านเกิด แต่ก่อนหน้านั้นผมเพียงแค่ต้องการย้ายออกจากเซลต้ามาที่แอต มาดริดเท่านั้นแต่ไปๆ มาๆ ผมก็อยากจะย้ายไปเล่นลีกใหม่ๆ ดูบ้าง

ถึงแม้ว่าผมจะเซ็นสัญญาที่แอตเลติโก มาดริดไปแล้วแต่ว่าผมก็ไม่ปิดโอกาสในการย้ายไปเล่นที่ “โมลินิวซ์“ ผมตัดสินใจไปแล้ว นั่นทำให้ผมได้ย้ายมาเล่นที่อังกฤษ ซึ่งมันก็เป็นความต้องการส่วนตัวของผมด้วยผม

จอนนี่ อ็อตโต้ย้ำไม่เคยเสียใจที่ย้ายออกมาจากทีมเก่า และถูกใน “โมลินิวซ์“

ผมไม่คิดเสียใจเลยที่ย้ายออกมาโดยที่ยังไม่ได้เล่นให้แอตเลติโก มาดริดเลย ทีมตราหมีเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่ผมก็มีความสุขดีที่นี่เพราะว่าที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านของผมเลย

ผมรู้จักชื่อเสียงของนูโน่มาก่อนที่จะย้ายมาที่อังกฤษ ในความเป็นจริงผมเคยเล่นทีมตรงข้ามเขามาแล้วโดยตอนนั้นเขาคุมทีมบาเลนเซีย แต่ผมเล่นที่เซลต้า ดังนั้นเขาจึงรู้วิธีการเล่นของผมเป็นอย่างดี

แต่ว่าผมไม่รู้จักทีมวูลฟ์มากนัก รู้แต่เพียงว่าเป็นทีมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาผมรู้แค่นั้น แต่เขาใช้เวลาในการเรียนรู้ไม่นานเขาได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีม และยิงประตูแรกได้ในเกมที่ชนะเซาแธมป์ตัน 2-0 เมื่อเดือนธันวาคม 2018

และหลังจากเซ็นแบบยืมตัว 6 เดือน 6 วันเขาก็ได้เซ็นสัญญาถาวรจากวูลฟ์ด้วยเวลา 4 ปีครึ่งและกลายมาเป็นนักเตะตัวหลักของทีมอย่างองอาจ

คลุกวงในข่าวกีฬาฟุตบอลต้องที่นี่เลย