โยอาคิม เลิฟ กำลังจะทำให้ตัวเองตกงานในเร็ววัน

โยอาคิม เลิฟ

การแข่งขันยูฟ่าเนชั่นเนลลีกนัดสุดท้ายจบลงไปเป็นที่เรียบร้อย เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ทีมชาติสเปน พบกับ ทีมชาติเยอรมัน ถูกพูดถึงในวงกว้าง เนื่องจากทัพอินทรีเหล็กพ่ายเจ้าบ้านไปถึง 6-0 ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดในรอบ 90 ปี เลยทีเดียว ทำให้อุณหภูมิเก้าอี้ของ โยอาคิม เลิฟ กลับมาอุ่นอีกครั้ง แม้สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันจะยืนยันว่าตอนนี้เก้าอี้ยังแข็งแรงก็ตาม

โยอาคิม เลิฟ

โยอาคิม เลิฟ ต้องรับผิดชอบ แต่ถึงกระนั้นสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันก็ยังให้โอกาสในการคุมทัพต่อไป

นับตั้งแต่ทีมชาติเยอรมัน คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 เมื่อปี 2014 ผลงานของทัพอินทรีเหล็กก็ค่อย ๆ ดรอปลง ไล่ตั้งแต่ยูโร 2016 ที่ไปได้ไกลสุดแค่รอบรองชนะเลิศ แน่นอนว่าในฐานะแชมป์โลกอาจดูเสียฟอร์ม แต่ไม่ถึงขั้นล้มเหลว กระทั่งทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2018 ทีมชาติเยอรมัน สืบสานอาถรรพ์แชมป์เก่าต้องตกรอบรอบแรก ด้วยการเปิดสนามพ่ายเม็กซิโก กับปิดท้ายด้วยการแพ้เกาหลีใต้ แบบช็อกโลกมนุษย์ 2-0 ทำให้เสียงวิจารณ์ดังสนั่นไปทุกหนแห่งถึงความล้มเหลวในครั้งนี้ที่ โยอาคิม เลิฟ ต้องรับผิดชอบ แต่ถึงกระนั้นสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันก็ยังให้โอกาสในการคุมทัพต่อไป ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ 2 ปีกว่าแล้ว ผลงานยังลุ่มๆดอนๆ ก่อนที่เมื่อคืนจะพ่ายสเปนถึง 6-0 ทำให้เสียงวิจารณ์ที่มีต่อ เลิฟ กลับมาอีกครั้ง 

จริงๆ แล้ว เลิฟ มีนโยบายดันเด็กหน้าใหม่ขึ้นมาตั้งแต่ยูโร 2016 แล้ว ที่ดูเหมือนจะเป็นโมเดลที่ดีเพื่อสืบสานความสำเร็จในระยะยาว แต่การตกรอบแรกในศึกฟุตบอลโลก 2018 ทำให้ เลิฟ ต้องถ่ายเลือดใหม่ขนานใหญ่เพื่อกู้สถานการณ์ ซึ่งแนวทางของเขาที่กำลังทำอยู่นี้ กำลังจะทำให้เจ้าตัวมีแนวโน้มตกงานเร็วขึ้น โดยมีทัวร์นาเมนต์ยูโร 2021 เป็นตัวชี้ชะตา 

โยอาคิม เลิฟ ข่าวฟุตบอลออนไลน์

แนวทางการถ่ายเลือดของเลิฟ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายเห็นด้วย แต่แนวทางของเขามีลักษณะแปลกๆ ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ที่ไม่เอา ลีรอย ซาเน่ มาติดทีมชาติ ทั้งที่เจ้าตัวเป็นดาวรุ่งตามนโยบายของเจ้าตัว แถมฟอร์มยังเด็ดดวงมากกับการเล่นให้แมน ซิตี้ หรือในตอนนี้ โทมัส มุลเลอร์ ฟอร์มดีมากๆ แต่ก็ไม่เรียกมาติดทีมชาติ ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะนโยบายของเจ้าตัว แต่ขณะเดียวกัน เลิฟ ดันไปเรียก มาริโอ เกิทเซ มาติดทีมชาติ ทั้งๆที่ตัวนักเตะอายุเยอะแล้ว แถมฟอร์มบู่สุดขีด นี่จึงทำให้เห็นความย้อยแย้งในตัวของ เลิฟ ที่รู้สึกได้ว่าเจ้าตัวไม่ได้ดำเนินงานตามนโยบายที่ตัวเองวางไว้ อีกทั้งยังบริหารทีมได้ย่ำแย่ เกาปัญหาไม่ถูกที่คัน 

ทำให้ยูโร 2021 เป็นทัวร์นาเมนต์ชี้ชะตา โยอาคิม เลิฟ ถ้าล้มเหลวก็น่าจะปิดฉากการคุมทีมชาตินานกว่า 10 ปี แบบไม่ค่อยสวยงามนัก แต่ถ้าผลงานดี เข้ารอบลึกๆได้ ก็อาจเป็นการต่อลมหายใจออกไปได้อีก ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นเป็นไปได้ยาก หากดูผลงานในปัจจุบันกับชายตาดูอนาคตอันใกล้