วิเคราะห์เกมไทยลีก 1 นัดที่ 12 โปลิศ เทโร พ่าย เชียงราย 0-1

วิเคราะห์เกมไทยลีก

วิเคราะห์เกมไทยลีก เกมไทยลีกนัดที่ 12 ถูกขยับขึ้นมาเล่นวันที่ 4 พ.ย. 2020 จากโปรแกรมเดิมที่จะลงเตะหลังสัปดาห์ฟีฟ่าเดย์ เนื่องจากช่วงปลายเดือนนี้ สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด จะต้องไปแข่งขันเอเอฟซีแชมป์เปี้ยนส์ลีก ที่ประเทศกาตาร์ สำหรับฝั่งเจ้าบ้านมาในระบบเดิม 4-3-3 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-4-2 

ช่วงต้นเกมในนาทีที่ 7 อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ได้โอกาสทองที่จะทำประตูขึ้นนำ ซึ่งแนวรับทีมเยือนยืนผิดตำแหน่งกันหมดแล้ว แต่เจ้าตัวใช้เวลาตัดสินใจนาน จึงทำให้แนวรับวิ่งเข้ามาประชิดตัว อีกทั้งยิงได้น่าผิดหวังมาก 

วิเคราะห์เกมไทยลีก

วิเคราะห์เกมไทยลีก ครึ่งหลังเชียงรายเล่นเกมรับได้รัดกุมขึ้น แต่เทโรยังยึดมั่นกับแนวทางการเล่นบอลริมเส้น

ครึ่งแรก สภาพทีมเชียงราย ดูอึดอัดกับเกมรุกไม่มีบิลล์ ทำให้เกมนี้ชาช่าและสมคิด แทบจะหายไปจากเกม ส่วนแนวรับปล่อยให้เทโรได้ลากบอลริมเส้นแล้วเปิดป้อนมากลางประตูบ่อยครั้ง แต่เจ้าบ้านทำประตูไม่ได้เอง  

เชียงรายเป็นรองมาตลอดในครึ่งเวลาแรก แต่ก่อนจบครึ่งแรกต้องชมพิธิวัต ที่บังบอลจนได้เปิดมาให้กับอัครวินท์ สวัสดี ที่ยิงแบบไม่จับ กลายเป็นประตูขึ้นนำก่อนจบครึ่งแรก ซึ่งการที่ทีมรูปเกมเป็นรองแต่ขึ้นนำได้ก่อนในช่วงเวลานี้นับว่ามีผลอย่างมากในแง่จิตวิทยา เพราะครึ่งแรกเล่นดีกว่าแต่สกอร์ตามหลัง อีกทั้งต้องบดให้หนักกว่าเดิมเป็น 2 เท่า ในช่วงครึ่งหลัง  

วิเคราะห์เกมไทยลีก ข่าวบอล

วิเคราะห์เกมไทยลีก ครึ่งหลังเชียงรายเล่นเกมรับได้รัดกุมขึ้น แต่เทโรยังยึดมั่นกับแนวทางการเล่นบอลริมเส้น ซึ่งการส่งกีรติ เขียวสมบัติ ลงมา นับว่าเป็นการแก้เกมที่ถูกต้อง เพราะมีโอกาสได้โหม่งหลายครั้งแต่ทำไม่ได้เอง   บทสรุปของข่าวบอลต่างประเทศ โปลิศ เทโร ในภาพรวมเหนือกว่าผู้เยือน แต่แพ้จังหวะกับมีโอกาสแล้วแต่ทำประตูไม่ได้เอง ซึ่งเกมนี้ควรได้อย่างน้อย 1 แต้มด้วยซ้ำไป ขณะที่ฝั่งเชียงราย เกมนี้ฟอร์มการเล่นเป็นรอง จนอาจกล่าวได้ว่าโชคดีสุดๆที่สามารถคว้า 3 แต้มออกมาได้ อีกทั้งการขาดหายไปของบิลล์ จะเห็นได้ชัดว่ามีผลกระทบกับแนวรุกของทีมตั้งแต่นัดพ่ายบีจีปทุมแล้ว แม้ว่าเกมนี้จะมีชาช่าอยู่ แต่ก็ไม่มีคู่หูประสานงาน ทำให้หลายจังหวะเจ้าตัวต้องลากบอลแล้วหาจังหวะยิงเอง